หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการจัดฟันแบบใส อาจจะเพราะอยากให้ฟันเรียงตัวสวยขี้น ยิ้มสวยขี้น อยากมีความมั่นใจ ยิ้มกว้างได้เต็มที่ แต่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าจัดฟัน ไม่อยากให้ใครเห็นเหล็กจัดฟัน ที่ทำงานไม่อนุญาตให้จัดฟัน หรืออายที่จะจัดเพราะอายุมากแล้ว หรือมีเวลาในการจัดน้อย ฯลฯ มี 7 สิ่งที่คุณตวรรู้ เพราะบางที่การจัดฟันแบบใสอาจเป็นคำตอบของคุณ
- การจัดฟันแบบใสใช้แก้ไขการเรียงตัวของฟันได้ดีในบริเวณฟันหน้า สามารถจัดฟันให้เป็น ระเบียบสวยงามได้ในเวลาสั้น เพียง 5-6 เดือน แต่อาจไม่สามารถใช้แทนการจัดฟันแบบติดเครื่องมือปกติได้ทุกกรณี เพราะฉะนั้น จำเป็นที่จะต้องให้ทันตแพทย์ผู้รักษาทำการตรวจ และประเมินดูก่อนว่าสภาพฟันของคุณเหมาะจะแก้ไขด้วยเครื่องมือจัดฟันใสหรือไม่
- การเตรียมช่องปากก่อนการจัดฟันก็เป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆคนมองข้าม ก่อนที่เราจะรับเครื่องมือจัดฟันใสไปใส่นั้น เราต้องอุดฟันที่ผุให้เรียบร้อย ไม่มีเหงือกอักเสบ รวมถีงไม่มีฟันคุดที่จะขัดขวางการจัดฟันด้วย มิฉะนั้นกว่าจะจัดฟันเสร็จอาจได้ฟันผุเพิ่มขึ้น เหงือกบวม เหงือกร่นเป็นของแถม
- การจัดฟันใสจะสำเร็จได้ด้วยดี ได้ฟันที่เรียงตัวออกมาเป็นระเบียบสวยงามหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองมากกว่าหมอ ทันตแพทย์จะเป็นผู้ออกแบบเครื่องมือ วางแผนการเคลื่อนฟันให้คุณ แต้ถ้าคุณไม่ใส่เครื่องมือ หรือไม่มาปรับเครื่องมือตามเวลา ฟันของคุณคงไม่มีโอกาสเรียงตัวเป็นระเบียบตามแผนการรักษาแน่ๆ
- ถ้ากำลังจัดฟันแบบติดเครื่องมืออยู่ แต่ยังไม่เสร็จ ไม่ควรรีบถอดเครื่องมือเพื่อจะมาจัดแบบใสต่อ เพราะถ้าหากการสบฟันยังไม่ดี หรือมีฟันห่างมาก เครื่องมือแบบใสมักจะแก้ไม่ได้
- ถ้าเคยจัดฟันติดเครื่องมือมาแล้ว แต่ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ หรือใส่ไม่นานพอฟันจึงกลับมาซ้อนเกอีก กรณีแบบนี้เครื่องมือจัดฟันแบบใสมักจะแก้ไขใหม่ให้เรียบได้ แต่ก็ต้องเข้ามาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจประเมินก่อน
- การดูแลรักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพดีก็สำคัญ เครื่องมือจัดฟันใสทำมาจากพลาสติกขึ้นรูป มีความคงทนพอสมควร แต่ไม่ทนความร้อนและแตกได้ถ้าถูกกดทับ เพราะฉะนั้นจึงต้องถอดใส่อย่างระมัดระวัง มีกล่องเก็บที่เหมาะสม รวมถึงทำความสะอาดตามที่ทันตแพทย์แนะนำ และระวังเครื่องมือหาย
- สุดท้ายเมื่อจัดฟันเสร็จได้ฟันที่เรียงตัวสวยงามแล้วก็ต้องใส่รีเทนเนอร์ หรือเครื่องมือคงสภาพฟัน และดูแลฟันให้ดี ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เพื่อให้ฟันยังคงสวยงามตลอดไป